โรคตับอักเสบบี การป้องกันที่ดีที่สุด คือ วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี
นพ. กนต์ธีร์ วงษ์เสรี | 11 สิงหาคม 2568 เวลา 06:34
ไวรัสตับอักเสบบี รู้เท่าทัน ป้องกันได้
นพ. กนต์ธีร์ วงษ์เสรี | 11 สิงหาคม 2568 เวลา 06:34
ไวรัสตับอักเสบบี รู้เท่าทัน ป้องกันได้
โรคตับอักเสบบี เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (hepatitis B virus)
ไวรัสตับอักเสบบี รู้เท่าทัน ป้องกันได้
เชื้อไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B virus) ก่อให้เกิดการอักเสบของเซลล์ตับ โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะติดเชื้อแบบเรื้อรัง จนเกิดพังผืดตับ เกิดเป็นตับแข็ง และมะเร็งตับตามมาได้
การแพร่เชื้อ
- ช่องทางการติดต่อของเชื้อที่สำคัญที่สุดคือ ติดจากมารดาสู่ทารกตอนคลอด นอกจากนี้ยังสามารถติดได้ทางเลือด และสารคัดหลั่งต่างๆ เช่น การสัก การเจาะหู การใช้มีดโกนหนวด แปรงสีฟัน หรือเข็มฉีดยาร่วมกัน การมีเพศสัมพันธ์
อาการและการตรวจวินิจฉัย
- อาการของผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ส่วนใหญ่จะติดเชื้อแบบเรื้อรัง คือจะไม่แสดงอาการ ผู้ป่วยมักแสดงอาการตอนเริ่มมีตับแข็ง หรือเป็นมะเร็งตับแล้ว เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ตัวเหลืองตาเหลือง ขาบวม ท้องบวมโต ปวดแน่นท้อง
- ปัจจุบันมีคำแนะนำให้ประชากรไทยทุกคนตรวจคัดกรองการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เพียงแค่มาตรวจเลือด ก็สามารถทราบการติดเชื้อได้ทันที เพื่อเริ่มการรักษาและป้องกันภาวะแทรกช้อนที่จะเกิดตามมา
การรักษา
- ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบปีที่อยู่ในระยะเรื้อรัง ควรได้รับการพิจารณาเข้ารับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ซึ่งประสิทธิภาพดีมาก สามารถควบคุมระดับเชื้อไวรัสได้ดี ลดการแพร่กระจายของเชื้อและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคตับแข็งหรือมะเร็งตับ
การป้องกัน
- การป้องกันการติดเชื้อ เริ่มได้จากการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การหลีกเลื่องการสัมผัสเลือด การป้องกันขณะมีเพศสัมพันธ์
- แต่ในปัจจุบันวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกัน คือ การได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เนื่องจากประสิทธิภาพดีและป้องกันติดเชื้อได้ตลอดชีวิต
ใครควรได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
- ทารกแรกเกิด
- เด็กและวัยรุ่นทุกคนที่ไม่ได้รับวัคซีนตอนแรกเกิด
- บุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่ทำงานในสถานพยาบาลที่มีโอกาสได้รับเชื้อจากการทำงาน
- ผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง
- ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ฟอกไต
- ผู้ป่วยที่ได้รับเลือดบ่อยๆ เช่น ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย
- ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น ผู้ที่ใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น ผู้ที่เคยสัก ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน กลุ่มชายรักร่วมเพศ
นพ. กนต์ธีร์ วงษ์เสรี (ว.58087)
อายุรแพทย์ระบบทางเดินอาหารและตับ
เวลาออกตรวจ
จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เวลา 09:00-17:00 น.
เสาร์ เวลา 13:00-16:00 น.