กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ วิธีแก้ มีอะไรบ้าง?
ฝ่ายการตลาด | 7 สิงหาคม 2568 เวลา 09:30
ฝ่ายการตลาด | 7 สิงหาคม 2568 เวลา 09:30
กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอเกิดจากอะไร?
หลายคนที่มีอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ รู้สึกปวดหน่วงๆ ที่บริเวณข้างซ้าย ข้างขวาอยู่บ่อยครั้งอาจเข้าใจว่าความผิดปกติเหล่านี้เกิดขึ้นจากอาการไข้หวัดแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่งผลให้เลือกใช้วิธีการรักษาได้ไม่เหมาะสมและอาการที่เจอไม่ทุเลาลงตามลำดับ แต่ความจริงแล้วนั้นปัญหากลืนน้ำลายแล้วเจ็บคออาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
1. ปัญหากลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส (Viral Infection) เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดในทุกช่วงอายุ หลังจากที่ได้รับเชื้อมาแล้วในช่วง 3-5 วัน ผู้ป่วยในกลุ่มนี้มักมีอาการไอ เจ็บคอ คอแดง กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ มีไข้ต่ำๆ แต่ไม่มีน้ำมูกหรือเสมหะร่วมด้วยในช่วงแรก โดยเชื้อไวรัสที่พบได้บ่อย เช่น เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เชื้อไวรัสไข้หวัดทั่วไป เชื้อไวรัสมือเท้าปาก (Enterovirus 71) เชื้อโควิด 19 (Covid-19)
2. ปัญหากลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Infection) เป็นสาเหตุของอาการเจ็บคอ กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ที่พบได้ไม่บ่อยนักแต่มักมีอาการของโรคที่รุนแรงกว่า โดยผู้ป่วยในกลุ่มนี้มักมีไข้สูง มีเสมหะข้นเหนียวสีเข้มและไอต่อเนื่องกันหลายวันจนทำให้คอแดง คออักเสบ กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ปวดหน่วงในลำคอ โดยมีลักษณะอาการที่บ่งชี้โรคแตกต่างกันออกไป เช่น
• โรคต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsilitis) ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยมักมีไข้สูง รู้สึกปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ที่ผนังคอหอยและต่อมทอนซิลบวมแดงหรือมีจุดหนองสีขาว กดเจ็บบริเวณต่อมทอนซิล มีอาการเจ็บคอเวลากลืนน้ำลาย เจ็บคอข้างซ้าย-ขวาหรืออาจเจ็บร้าวไปที่หูร่วมด้วย
• โรคคออักเสบ (Pharyngitis) ผู้ป่วยมักมีอาการเจ็บคอมากจนกลืนน้ำลายไม่ได้ กลืนลำบาก ผนังคอหอยหรือเพดานอ่อนบวมแดงร่วมกับมีไข้สูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวและเบื่ออาหาร
3. ปัญหากลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ นับเป็นอีกสาเหตุที่พบได้บ่อยเนื่องจากโรคบางโรคหรือปัจจัยกระตุ้นต่างๆ ก็อาจทำให้เกิดอาการเจ็บคอ ระคายคอ คออักเสบจนทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการกลืนได้ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อย เช่น
• โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ทั้งที่เกิดจากพันธุกรรมหรือการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลภาวะ ฝุ่นควัน PM 2.5 และสารเคมีเป็นเวลานาน มีส่วนกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองที่บริเวณระบบทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่างส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล ส่งผลให้กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอได้
• อาการกรดไหลย้อน กรดที่ไหลย้อนขึ้นมาจากกระเพาะอาหารจนทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่บริเวณหลอดอาหารและผนังลำคอ ส่งผลให้เกิดอาการแสบร้อน ระคายเคืองลำคอ มีอาการกลืนติด กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ เรอบ่อยและคลื่นไส้ อาเจียน
• การใช้เสียงมากเกินไป ในบางรายที่มีอาการกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ร่วมด้วยอาจเกิดขึ้นจากการใช้เสียงมากเกินไป ใช้เสียงผิดวิธี ซึ่งมักพบได้บ่อยในผู้ที่ต้องใช้เสียงเยอะๆ เป็นประจำ เช่น นักร้อง พิธีกร อาจารย์ แม่ค้า พ่อค้า เป็นต้น
• การรับประทานอาหารรสจัด ทั้งอาหารที่มีรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หรือหวานจัด อาจส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองภายในลำคอและหลอดอาหาร จนทำให้กลืนน้ำลายแล้วรู้สึกเจ็บคอ แสบคอได้
• มีสิ่งแปลกปลอมหรือเนื้องอกภายในลำคอ เช่น ก้างปลาติดคอ เศษกระดูกชิ้นเล็กๆ ติดคอ ผู้ป่วยที่มีอาการไอเรื้อรังที่เกิดจากการมีเนื้องอกหรือเป็นมะเร็งลำคอ ทำให้เกิดอาการระคายเคือง มีอาการกลืนเจ็บ กลืนน้ำลายได้ยาก
สรุป กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ อาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุทั้งอาการระคายเคืองในคอ กลืนเจ็บที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย และอาการเจ็บคอ กลืนน้ำลายไม่ได้ที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น
โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ อาการกรดไหลย้อน การใช้เสียงผิดวิธีหรือมีสิ่งแปลกปลอม มีเนื้องอกภายในลำคอ สำหรับวิธีแก้ไข อาการเจ็บคอกลืนน้ำลายไม่ได้
ต้องวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการและเลือกใช้วิธีการรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อการรักษาที่ตรงจุด และป้องกันการใช้ยามากเกินจำเป็น หากมีอาการไอเรื้อรัง กลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอที่ไม่สามารถบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ด้วยตนเอง ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและให้การรักษาที่เหมาะสม